นักฟุตบอลกับหมายเลขเสื้อ เป็นของคู่กัน เพราะตัวเลข ถือเป็นสิ่งนำโชค ที่ทำให้นักฟุตบอลเล่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้น แต่เบอร์ 7 ในแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะนี่คือหมายเลขที่ใครสวมใส่ ก็ต้องโดนกดดันจนฟอร์มตกแทบทุกราย เรียกได้ว่าคนสุดท้ายที่ใส่แล้วฟอร์มดีที่สุด คือสุดยอดนักเตะแห่งยุค อย่าง “คริสเตียโน่ โรนัลโด้” ทำให้คนที่เข้ามาสืบทายาทหมายเลข 7 ต้องคิดหนัก และคนล่าสุดอย่าง “เอเดิสัน คาวานี่” จะรอดหรือไม่?
ชื่อเสียงและฝีมือของ “คาวานี่” เชื่อว่าหลายคนไม่กล้าเถียง แถมยกย่องว่าเป็นสุดยอดกองหน้าอีกหนึ่งคน ทางด้านสถิติส่วนตัว เขายิงประตูได้มากเป็นอันดับสามของลีกยุโรป ในช่วงทศวรรษหลัง โดยลงสนามไปทั้งหมด 413 นัด ยิงได้ 250 ประตู เรียกได้ว่าเป็นรองแค่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ เท่านั้น
หากมองภาพรวม คาวานี่ คือสุดยอดนักเตะที่เล่นทีมไหนก็ได้ แถมย้ายตัวได้แบบฟรีๆ แมนยูฯ จึงไม่รอช้าคว้าตัวมาร่วมทีม พร้อมมอบหมายเลข 7 ในตำนานให้กับเขา ถือเป็นดีลที่เซอร์ไพรส์แฟนบอลทั่วโลก แต่ด้วยอายุที่ปาเข้าไป 33 ทำให้คาวานี่ต้องแบกรับความกดดันพอสมควร แต่อายุก็เป็นเพียงตัวเลข เพราะอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง อิบรา ฮิมอวิช ที่อายุจะแตะ 40 ก็ยังคงโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นกับเอซี มิลาน ทำให้คาวานี่ก็มีโอกาส ที่จะกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งได้ ด้วยสัญชาตญาณกองหน้าที่เฉียบคม บวกกับทักษะการยิงประตูที่ยอดเยี่ยม คาวานี่จึงก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าคนใหม่ของทีม
ทางด้านไมเคิล โอเว่น อดีตตำนานทีมชาติ อังกฤษ และอดีตหมายเลข 7 ของแมนยูฯ ออกมาพูดถึงการย้ายตัวครั้งนี้ของคาวานี่ว่า “เขามีสไตล์การเล่นที่เหมือนผม เขาสามารถทำได้ดีในช่วงระยะ 2-3 หลาของเสาใกล้ ซึ่งมันสร้างโอกาสในการทำประตูได้มากกว่า และเขายังเป็นกองหน้าที่เก่งมากๆ” เมื่อตำนานออกมาเจิมให้ขนาดนี้ ก็ต้องติดตามต่อว่าเอดิสัน คาวานี่จะยิงได้ถล่มทลายหรือไม่
เพราะหากมองย้อนหลับไป หมายเลข 7 ที่ใส่ต่อจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เรียกได้ว่าเจ๊งแทบทุกคน ไม่ฟอร์มตก ก็ต้องเจออาการบาดเจ็บ หรือบางคนทนความกดดันไม่ไหวต้องขอย้ายทีม ไม่ว่าจะเป็น อังเคล ดิมาเรีย , เมมฟิส เดปาย หรืออเล็กซิส ซานเชส ที่โชว์ฟอร์มได้แย่ที่สุด ทำให้คาวานี่ต้องรีบพิสูจน์ตัวเอง และยิงประตูเรียกความมั่นใจให้ไวที่สุด