
Planning
ช่วง Planning เป็นช่วงที่รวบรวมไปด้วยสิ่งสำคัญหลักๆที่ควรต้องทำแต่เนิ่นๆค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลสำคัญสำหรับขั้นตอนถัดๆไปของงานแต่งงาน หากไม่เคลียร์ งานก็จะเดินต่อลำบากค่ะ ช่วงที่จัดการ list ใน Planning Stage นี้ ควรจะมีระยะเวลาไม่เกิน 1-3 เดือนนะคะ ถ้าปล่อยช้าไปกว่านี้ ไม่ตัดสินใจสักที งานส่วนอื่นๆก็จะช้าลงได้ค่ะ
1. Save the Date
ถ้าเรายังกำหนดวันไม่ได้ เรื่องอื่นๆก็จะจัดการไม่ได้ตามเป็นทอดๆเหมือนโดมิโน่เลยค่ะ
2. Talk to Parents
คุยกับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายโดยเร็ว เราจะได้ทราบว่าท่านมี Concern อะไรบ้าง มีอะไรที่อยากให้เราดูแลมากหน่อยมั้ย เวลาที่เราเลือกรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ เราได้ระวังเป็นพิเศษค่ะ
3. Who will be your guests?
เริ่มคุยกันกับคุณแฟน และคุณพ่อคุณแม่เลยนะคะว่าจะเชิญแขกประมาณกี่คน เราจะได้วางแผนได้ว่าเราควรจัดที่สถานที่แบบไหน ประมาณคนได้กี่คน ต้องใช้เงินประมาณเท่าไหร่ ถ้าเราเตรียมตั้งแต่เนิ่นๆยิ่งดีค่ะ
4. What is your Budget?
ก่อนจะเลือกสถานที่ เลือกแนวทางการจัดงาน เราต้องประเมินให้ได้ก่อนนะคะว่าเราจะมีเงินสำรองใช้จ่ายเพื่อการจัดงานเท่าไหร่ เราจะได้รู้ว่าสถานที่ หรือ Vendor ต่างๆที่เราจะเลือกใช้บริการได้ควรอยู่ใน Range ราคาประมาณไหนค่ะ

5. Where will be your venue?
เมื่อทราบจำนวนแขก รู้ Budget และคุยกับคุณพ่อคุณแม่เรื่อง Concern/ Requirement ของท่านเรียบร้อย รีบหาสถานที่จัดงานแต่เนิ่นๆเลยนะคะ จองเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะสถานที่ฮิตๆทั้งหลายคิวแน่นมาก บางที่ต้องจองเป็นปีเลยน๊า
6. Beautify Me
เรื่องเกี่ยวกับการทำสวยทั้งหลาย หน้า ผม ชุด คืออยากบอกว่า ช่างดังๆ ร้านดังๆ คิว HOT จองกันข้ามปี เพราะงั้นรีบเลือก รีบจองดีกว่านะคะ (Tips: ช่างต่างๆมักจะมีการปรับเรทราคาขึ้นทุกปี ถ้าจองมัดจำก่อนนานๆจะได้ป้องกันการขึ้นราคาของช่างดังๆด้วยน๊า)
7. Capture the Moment
ตากล้องคิวแน่นพอๆกับช่างแต่งหน้า ทำผมเลยค่ะ รีบจองคิวไว้ก่อนแต่เนิ่นๆนะคะ
8. What will be ‘Your Story’ (Theme)?
เริ่มหา Reference คุยกับแฟนว่า Theme ของงานเราควรเป็นเรื่องราวแบบไหน เพราะตัว Theme นี่แหล่ะค่ะที่จะเป็นสิ่งตีกรอบให้การเตรียมงานส่วนอื่นๆของเราไปในทิศทางเดียวกันค่ะ

Execution
หลังจากเราเตรียมรายละเอียดภาพใหญ่ในส่วน Planning ไปแล้ว ตอนนี้ก็เข้าสู่ขั้นตอนการลงมือปฏิบัติการเตรียมงานแต่งงานอย่างเต็มตัวแล้วค่ะ เพื่อนๆอาจจะต้องใช้เวลาส่วนมากอยู่ในขั้น Execution นี่หน่อยนะคะ จะใช้เวลานานมากน้อยได้แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อนๆมีเวลาเตรียมก่อนถึงวันงานมากแค่ไหนนี่แหล่ะค่ะ ซึ่งในบางหัวข้อของ Checklist ที่ต้องทำในช่วง Execution นี้ ซึ่งเราจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงย่อยๆนะคะ คือ Early Stage (ช่วงเตรียมตัวขั้นแรก) กับ Final Stage (ช่วงสรุปงานให้เรียบร้อย)
ส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับตัวงาน และแขก
1. การ์ดเชิญ + ซอง

Early Stage: เพื่อนๆคงต้องตัดสินใจตอนนี้แล้วล่ะค่ะว่าจะใช้การ์ดเชิญเป็นแบบไหน แบบที่เค้ามีสำเร็จรูปอยู่แล้ว หรือเป็นแบบที่ออกแบบใหม่ให้งานเราเอง ถ้าให้ร้านออกแบบใหม่ ลองหาว่าเจ้าไหนงานดี ราคาไม่เกินงบเรา และไว้ใจได้บ้างนะคะ ซึ่งตอนจะสั่งการ์ดเพื่อนๆก็ต้องรู้จำนวนแขกก่อนนะคะ จะได้รู้ว่าควรสั่งพิมพ์การ์ดกี่ใบค่ะ อาจต้องพิมพ์เผื่อๆไว้นิดหน่อย เผื่อมีปัญหาตกหล่นทีหลังนะคะ
ถัดจากนั้นเราต้องเริ่มจัดการเตรียมซอง พิมพ์จ่าหน้าซองให้เรียบร้อยเมื่อสรุปรายชื่อแขกจนนิ่งแล้วค่ะ ตัวซองต้องซื้อเผื่อไว้เลยนะคะ เพราะจะมีเหตุการณ์พิมพ์ผิด แก้ชื่อแขกใหม่ ต้องใช้ซองเพิ่มแน่นอนค่ะ ยิ่งถ้าเป็นซองในแบบ หรือสีที่ Customized เป็นพิเศษ แล้วจะมาสั่งเพิ่มทีหลังไม่กี่ใบ ทางร้านเค้าจะไม่รับสั่งนะค๊า ระวังกันด้วยค่ะ ^_
Final Stage: เมื่อพิมพ์การ์ด พิมพ์ซองพร้อมรบ เพื่อนๆต้องไล่ List รายชื่อแขก แล้วจัดแบ่งแขกออกเป็นกลุ่มๆตามประเภทการเชิญนะคะ เช่นใครบ้างที่เราจะนำส่งการ์ดเอง ใครบ้างที่เราจะส่งไปรษณีย์ให้ ขอที่อยู่เค้าให้พร้อม หรือใครบ้างที่จะฝากเพื่อนไปให้ แจ้งเค้ารึยัง etc. วิธีการส่งแต่ละแบบก็ใช้เวลาที่ต่างกันไปค่ะ ช่วงเวลาที่น่าจะจัดส่งการ์ดให้แขกได้แล้วก็คือ ช่วงหนึ่งเดือน หรือเดือนครึ่งก่อนวันงานนะคะ ถ้าต้องส่งนานกว่านั้น ช่วงใกล้ๆสักเดือน หรือครึ่งเดือนก่อนงาน เพื่อนๆอาจจะต้องมีการเตือน แขกด้วยน๊า เค้าจะได้ไม่ลืมมาร่วมงานค่ะ
2. ของชำร่วย
Early Stage: ตะลุยหาของชำร่วยที่บ่งบอกความเป็นตัวเอง หรือ Story ของงาน ในงบที่มีนะคะ ของชำร่วยสั่งทำไม่นาน แต่เสียเวลาตอนหาร้านที่มีของถูกใจนี่แหล่ะค่ะ ต้องใจเย็นๆนะค่ะ
Final Stage: เมื่อได้รับของชำร่วยเรียบร้อยแล้ว จัดการติด Tag ชื่อ หรือห่อให้เรียบร้อยในกรณีที่จำเป็นต้องทำเพิ่มนะคะ แล้วแพคใส่กล่องให้เรียบร้อยแต่เนิ่นๆเลยค่ะ พอก่อนถึงวันงานสักวันสองวัน ได้ยกกล่องไปเตรียมไว้ที่สถานที่แต่งงานได้เลยค่ะ
3. การตกแต่งภายในงาน
Early Stage: เพื่อนๆคงต้องคุยกับสถานที่จัดงานก่อนว่ามีอะไรเตรียมให้เราไว้แล้วบ้าง ทำอะไรได้ หรือไม่ได้บ้าง แล้วค่อยตัดสินใจต่อว่าจะใช้ Organizer มาช่วยจัดการให้ หรือจะจัดการตกแต่งเอง และสิ่งที่ต้องเตรียมก็คล้ายๆกันนะคะ คือต้องคิด Story ของงาน เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางการตกแต่งภายในงานให้สอดคล้องกันค่ะ สิ่งที่ต่างกันนิดหน่อยก็คือ ถ้าเพื่อนๆ จะทำเอง คงต้องตระเวนหาซื้ออุปกรณ์การตกแต่งไว้ให้พร้อมก่อนนะคะ
Final Stage: ในกรณีที่ใช้ Wedding Organizer คงต้องตามอัพเดท Progress ว่าเค้าเตรียมของไว้ตรงกับ Theme ที่เรา Brief ให้ตอนแรกรึเปล่า แต่ถ้าจะตกแต่งเอง เพื่อนๆคงต้องมอบหมายให้ใครสักคนเป็นแม่งานดูแลเรื่องนี้ในวันงานค่ะ เพราะในวันจริง เราจะยุ่งๆแต่งตัวแต่งหน้าทำผม ไม่มีเวลาลงมาจัดวางอุปกรณ์ตกแต่งในงานเองแน่นอนค่ะ ไว้ใจให้คนอื่นทำให้เพื่อความสบายใจดีกว่าน๊าคะ

4. Backdrop

Early Stage: คุยกับสถานที่ให้เรียบร้อยว่าใช้ Backdrop ขนาดไหน เป็นแบบใดได้บ้าง เพื่อนๆจะได้ตัดสินใจเลยว่าจะใช้ Backdrop ของโรงแรมรึเปล่า ถ้าไม่ใช้ เพื่อนๆจะเอาแบบไหน จะเป็นดอกไม้สด ดอกไม้ประดิษฐ์ Inkjet หรือว่าอย่างอื่นที่เพื่อนๆอยากได้ เราได้รีบหา Vendor ค่ะ
Final Stage: ถ้าไม่ได้ใช้ของโรงแรม เพื่อนๆอย่าลืมสรุปงานกับ Vendor ให้เรียบร้อยนะคะ แล้วนัดวันเวลาเข้าไปติดตั้ง Backdrop ด้วยค่ะ ซึ่งสถานที่แต่ละที่จะมีเวลาให้เข้าไปติดตั้ง Backdrop แตกต่างกัน จุดนี้ต้องเชคกับพนักงานของสถานที่ให้เรียบร้อยนะคะ
5. Wedding Presentation
Early Stage: เพื่อนๆอยากได้ Wedding Presentation แบบไหนคะ? เดี๋ยวนี้มันมีหลากหลายรูปแบบมากเลย จะเป็น slide รูปน่ารักๆ อาจจะสัมภาษณ์ หรือเล่นเป็นหนังเลยก็ได้ จุดที่ต้องเตรียมก็คือ ตัดสินใจว่าจะทำเอง หรือจะหา Vendor เจ้าที่เก่งในแนวที่เราชอบ ราคาอยู่ในงบนะคะ เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ก็คิด Story ไว้เลยว่าจะนำเสนอแบบไหน ถ้าเพื่อนๆจะใช้ Vendor เค้าจะเตรียมถ่ายทำก่อนล่วงหน้าประมาณ 2 เดือนค่ะ
Final Stage: เปิดเชคไฟล์ให้เรียบร้อย จะได้มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาใกล้ๆวันงานนะคะ แล้วเตรียมเก็บไฟล์ไว้ในหลายๆที่ จะ CD, upload ขึ้นเวบไว้ก่อน (เผื่อวันงานไฟล์เจ๊งบ๊ง ไม่มีเก็บไว้ที่ไหน อย่างน้อยก็ download ได้จากในเวบนะคะ) หรือในคอมที่เราจะติดตัวไปวันงานด้วยก็ได้ค่ะ
6. Pre-Wedding
Early Stage: เพื่อนๆลองตัดสินใจว่าจะใช้ภาพประกอบในงานยังไง อยากถ่าย Pre-Wedding มั้ย? ถ้าใช่ เพื่อนๆต้องรีบหา Vendor และจองคิวให้เรียบร้อยนะคะ แต่ถ้าเพื่อนๆจะใช้รูปถ่ายเอง ก็ต้องเตรียมรูป อัดรูปไว้ให้เรียบร้อยค่ะ
Final Stage: จัดรูปใส่กรอบที่จะใช้ในวันงาน หรืออัดใส่กรอบขนาดใหญ่ในกรณีที่อยากมีรูปใหญ่ๆวางหน้างานค่ะ
7. ของรับไหว้
Early Stage: เรื่องของรับไหว้ให้ผู้ใหญ่ในช่วงพิธีการตอนเช้าไปค่ะ อย่าลืมกันเลยน๊า เดี๋ยวใกล้ๆวันงานจะหาของถูกใจไม่ทันเอานะคะ เพื่อนๆอาจจะต้องเผื่อจำนวนชิ้นของรับไหว้ไว้ด้วยนะคะ เพราะพอถึงวันจริงอาจจะมีญาติบางคนที่อยากขึ้นมาอวยพรให้เราเพิ่มเติมค่ะ เราจะได้มีของขอบคุณท่านนะคะ
Final Stage: เพื่อนๆลองนั่งเชคดูว่าของรับไหว้ที่เตรียมไว้เพียงพอรึยัง จัดการห่อให้เรียบร้อย และแพคใส่กล่องไว้เลยค่ะ
8. อาหาร และเครื่องดื่ม
Early Stage: เพื่อนๆ ลองคุยกับสถานที่จัดงานดูนะคะ ว่าสามารถเตรียมอาหารในรูปแบบไหนได้บ้าง จะเป็นโต๊ะจีน หรือค๊อกเทล เราจะได้เลือกเมนูถูก และตัดสินใจได้ว่าต้องสั่งซุ้มอาหารเพิ่มรึเปล่า อีกส่วนที่สำคัญมากๆคือ ตัดสินใจว่าจะมีเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอลล์ในงานรึเปล่าค่ะ
Final Stage: ถ้าเพื่อนๆจะจัดโต๊ะจีน ถึงเวลาต้องสรุปแล้วล่ะค่ะว่าจะมีทั้งหมดกี่โต๊ะ และมีเมนูอะไรบ้าง ถ้าจัดค๊อกเทลก็ต้องสรุปเมนูอาหารที่เลือก และซุ้มอาหารที่จะสั่งเพิ่มค่ะ สิ่งสำคัญก็คือ ต้องสรุปให้ชัดเจนแล้วล่ะค่ะว่าจะมีแขกมางานประมาณกี่คน ไม่งั้นสั่งอาหารไม่พอแขกหิวโซจะหมดสนุกเลยน๊า ในส่วนของแอลกอฮอลล์ก็เตรียมจัดซื้อแพคกล่องให้เรียบร้อยไว้เลยค่ะ
9. เพลงในงาน
เพื่อนๆคิดรึยังคะว่าจะใช้วงเล่นในงาน หรือใช้เปิดเพลงแทน ถ้าจะใช้วงก็ต้องตัดสินใจว่าจะเป็นวงแบบไหน เครื่องดนตรี 3 ชิ้น 5 ชิ้น ร้องเพลงแนวไหน จะได้จองคิววงแต่เนิ่นๆค่ะ แต่ถ้าใช้เปิดเพลงในงาน เพื่อนๆคงต้องนั่งลิสต์ชื่อเพลงไว้เลยนะคะ ได้เตรียมเขียนแผ่น CD หรือก๊อปใส่ Thumb Drive ไว้ให้ที่จัดงานเปิดให้เราค่ะ
ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเอง
10. ชุดแต่งงาน
ช่วงตระเวนหาชุดแต่งงานในฝันเป็นช่วงที่นัทเคยคิดว่าจะชอบมากกกก แต่ความเป็นจริงมันเหนื่อยมากเลยแล่ะ เพราะต้องหาหลายที่ เเละเลือกเเบบที่เราชอบเเละเข้ากับคู่เรามากที่สุด

11. รองเท้า
สำหรับเพื่อนๆที่ไม่ถนัดใส่ส้นสูง อย่าลืมฝึกซ้อมใส่เดินไปเดินมาไว้ก่อนนะคะ การใส่ส้นสูงพร้อมลากกระโปรงยาวๆหนักๆน่าจะเป็นงานหินอยู่ ต้องฝึกใส่บ่อยๆนะคะ
12. แหวน
ถ้าเพื่อนๆไม่ได้มีแหวนอยู่แล้ว หรือไม่ได้จะซื้อแบบสำเร็จรูป อาจจะต้องเลือกตัวเรือน ตัวเพชรแล้วมาประกอบทีหลัง อาจต้องใช้เวลานานเผื่อเลือกไว้ด้วยนะคะ เพราะกว่าจะหาร้าน หาเพชรที่ถูกใจ หาแบบที่ใช่ ในราคาที่พอดี แล้วสั่งทำ ค่อนข้างจะใช้เวลาค่ะ ทั้งของผู้หญิง และผู้ชายเลย เเต่ถ้าเลือกเเบบสำเร็จอาจเป็นเเหวนเพชร แหวนทองก็เลือกได้ไม่ยากค่ะ
13. เครื่องประดับ
ในกรณีที่ต้องหาเครื่องประดับเอง ว่าที่เจ้าสาวอย่าลืมจัดเตรียมหาให้เข้ากับชุดทั้งส่วนงานเช้า และงานเย็นเลยนะคะ ถ้าไม่คิดมากร้านที่เราตัดชุดไทยด้วยเค้าจะมีเครื่องประดับไทยเข้าชุดให้ยืมอยู่แล้วค่ะ อาจจะไม่ต้องเตรียมตัวในส่วนนี้ก็ได้ค่ะ
Final Checklist
จริงๆเวลาทำ Project อันนึง เค้าจะมี Readiness Checklist (ลิสต์ตรวจความพร้อม Project) ออกมาเป็นข้อๆให้เราติ๊กดูว่า เราเตรียมตัวเรื่องต่างๆพร้อมแค่ไหน พร้อมจะ Launch Project จริงรึเปล่า งานแต่งงานก็เหมือนกันค่ะ ช่วงหนึ่งเดือนก่อนวันงานนี่แหล่ะ เป็นช่วง peak ที่เราต้องมาสรุปแล้วล่ะค่ะว่า Status ของงานแต่ละอย่างไปถึงไหนแล้ว พร้อมแค่ไหนสำหรับวันงาน คู่รักอาจจะลองเชคตามลิสต์ด้านล่างก็ได้ค่ะ
1. Communication
นอกจากเช็คให้เรียบร้อยว่าส่งการ์ดเชิญให้แขกครบหมดแล้วหรือยัง ช่วง 1 เดือนก่อนหน้างานนี่เป็นช่วงสร้าง Awareness เลยน๊า เราอาจต้องย้ำเตือนเพื่อนๆว่าจะมีงานเราแล้วนะจ้ะ อาจจะมี Event Facebook โพสภาพบ้าง คลิป Save the Date บ้าง Build อารมณ์ให้เพื่อนๆอยากมางานเราค่ะ
2. Confirm รายละเอียดกับ Vendor ทุกเจ้า
เช็คว่างานทุกอย่างเป็นไปตาม Timeline ที่วางไว้ แล้วนัดวันเวลาในการส่งงานให้เรียบร้อยค่ะ ถ้าเป็นของที่ต้องไป Set up ที่สถานที่จัดงาน ก็ต้องนัดเวลา และสถานที่ที่จะเข้าไปเตรียมตัวด้วยนะคะ ส่วนพวกช่างแต่งหน้า หรือตากล้อง ใช้วิธีโทรไปเตือนอีกรอบว่าเรามีนัดคิวไว้วันนี้ๆนะ แล้วถือโอกาสคุยกันคร่าวๆว่าอยากแต่งหน้าแนวไหน ชุดสีอะไร อยากได้อะไรตกแต่งผมเป็นพิเศษรึเปล่า

3. Confirm รายละเอียดกับโรงแรม/ สถานที่จัดงาน
นอกจากจะ Confirm รายละเอียดเรื่องจำนวนแขก อาหารที่สั่ง การตกแต่งงาน กับทางโรงแรมแล้ว แนะนำให้เพื่อนๆนัดวันเข้าไปซ้อมคิวกับที่โรงแรมด้วยนะคะ อาจจะต้องคุยกับทั้งเซลล์ และกัปตัน เพื่อจะได้เข้าใจตรงกันว่าลำดับขั้นตอนของงานมีอะไรบ้างค่ะ วันงานเค้าจะได้ช่วยประสานงานให้ได้ง่ายขึ้น
4. เตรียม Script Sequence ของงาน
การที่คู่รัก จะคุยกับทางโรงแรมได้ชัดเจน สิ่งสำคัญมากๆก็คือการเตรียม Sequence ของพิธีการให้ละเอียดและครบถ้วน เพราะใน Sequence เราจะระบุลำดับขั้นตอนทุกอย่าง ตรงไหนต้องหรี่ไฟ เปิดไฟ เปิดเพลงเปิดตัว เปิดเพลงตัดเค้ก เพื่องานจะได้ราบรื่นค่ะ
5. Final Check สำหรับ Video Presentation/ เพลง
เราควรลองเปิดทั้ง Video Presentation และเพลงในสถานที่จัดงานจริงๆนะคะ จะได้รู้ว่าภาพขึ้นจอมั้ย เสียงออกชัดเจนรึเปล่า มีปัญหาเรื่อง Resolution อะไรพวกนี้บ้างมั้ย จะได้รีบแก้ให้ทันค่ะ พร้อมทั้งลองเปิดพวกเพลงเปิดตัว เพลงตัดเค้ก เพลงโยนดอกไม้ ทางทีมเทคนิคได้คุ้นหูกะเพลงนิดหน่อย และตกลงจังหวะกันตาม Sequence ค่ะ
6. เชิญประธาน/ เถ้าแก่
ถึงเราจะเคยเรียนเชิญท่านไว้แล้ว แต่ช่วงใกล้ๆงานก็ต้องเตือนท่านอีกรอบนะคะ พร้อมขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ หรือขอทะเบียนรถไว้ ในกรณีที่จะเตรียมที่จอดรถ VIP ไว้ให้ท่านค่ะ
7. สรุปงานกับแม่งาน/ เพื่อนๆที่มาช่วยงานทุกคน/ พิธีกร
อย่าลืม คุยกับเพื่อนๆที่มาช่วยงานเป็นระยะๆ แต่ว่าใกล้ๆวันงานสัก 1-2 อาทิตย์ก่อนงาน อาจจะต้องนัดรวมตัวเพื่อนๆมานั่ง go through Sequence ของงานด้วยกัน และสรุปหน้าที่ความรับผิดชอบของทุกคนอีกทีค่ะ
8. เตรียม Script ขอบคุณ
เตรียม Topic คร่าวๆที่จะพูด และซ้อมไว้ก่อน เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม ในการถามตอบ ระหว่างขึ้นบนเวที เพราะในงานจริงเจ้าบ่าว เจ้าสาวอาจมีความตื่นเต้น หลงลืมได้ค่ะ
9. เตรียมความสวย
จุดนี้ห้ามลืมเด็ดขาดดด เราต้องสวยวันงานนะคะ ลองแพลนดูว่าคุณแฟนควรตัดผมช่วงไหน หรือช่วง 2-3 วันก่อนงานเราอาจจะไปทำเล็บซะหน่อย เวลาโดนถ่ายรูปใกล้ๆตอนสวมแหวนเล็บจะได้งดงามตามท้องเรื่องน๊า ซึ่งแนะนำว่าควรทำแบบเจลนะคะ อาจจะแพงกว่าแบบปกติหน่อย แต่ว่ามันก็อยู่ทน เวลายกของ แพคของไปที่สถานที่จัดงาน จะได้ไม่หลุดล่อนหมดสวยซะก่อนจ้า
10. แพ็คของสำหรับวันงาน
คู่รักคงต้องคุยกับที่โรงแรม หรือสถานที่จัดงานแล้วล่ะค่ะ ว่าสามารถเอาของไปเก็บก่อนได้รึเปล่า ได้กี่วันล่วงหน้า ได้กี่กล่อง เราจะได้แพลนได้ถูกต้องค่ะ ถ้าเอาไปเก็บที่งานได้เลยจะได้สบายตัวสบายใจในวันงานนะคะ ไม่ต้องห่วงของต่างๆละ แต่เวลาแพคของลงกล่องไปไว้ที่งาน และต้องทำป้ายติดบอกประเภทของให้ชัดเจนนะคะ เช่น ระบุหมายเลขประจำกล่องด้วย แล้วทำเป็น Checklist เก็บไว้กับตัวชุดนึง ให้เซลล์โรงแรมเก็บไว้ชุดนึง ได้เป็นหลักฐานว่าเราเอาอะไรมาฝากบ้างค่ะ ถ้ากล่องใดกล่องหนึ่งหายไป เราได้มีหลักฐานยืนยันนะคะ เช่น ของชำร่วย 1/4 (หมายถึงกล่องที่ 1 จากทั้งหมด 4 กล่องทีเป็นของชำร่วยค่ะ) งานวันที่….. ห้อง….. ชื่อเจ้าสาวเจ้าบ่าว….., ไวน์ 1/6 งานวันที่….. ห้อง ….. ชื่อเจ้าสาวเจ้าบ่าว….. (ระวังแตก), ของใช้โต๊ะ Reception 1/2 งานวันที่….. ห้อง….. ชื่อเจ้าสาวเจ้าบ่าว….., ของใช้ตกแต่งงาน 1/3 งานวันที่ ….. ห้อง….. ชื่อเจ้าสาวเจ้าบ่าว…..

คู่รักลองศึกษาอ่านดูนะคะ เพื่องานเเต่งของเราจะได้ออกมาอย่างเพียบพร้อม เริสหรูที่สุดค่ะ