เดิมค่าสินสอดเกิดจากการตกลงกันของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย อาจจะให้ผู้ใหญ่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสนอตัวเลขขึ้นมาก่อนก็ได้ แต่สมัยนี้บ่าวสาวจะเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดค่าสินสอดมากขึ้น เพราะด้วยระบบเศรษฐกิจและสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้สุดท้ายแล้วทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวนั่นแหละที่จะต้องเป็นคนหาเงินมาเป็นค่าสินสอดรวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการจัดงานแต่งของตัวเอง
และด้วยความที่ชาวบ้านอย่างเราๆ ไม่ได้รวยกันขนาดนั้นนี่แหละ เรื่องสินสอดจึงกลายเป็นปัญหา เพราะเราไม่รู้ว่าจะคิดค่าสินสอดเท่าไหร่ดี ถ้าพูดแบบกำปั้นทุบดินก็คือ ให้คิดตามความ ‘เหมาะสม’ และเท่าไรดี ถึงเหมาะสมที่สุด และผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย พึงพอใจที่สุด
ปัจจัยคำนวนค่าสินสอด
1.อายุ ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการคำนวนค่าสินสอด เพราะ อายุที่มากขึ้น สินสอดต้องเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เพราะด้วยอายุมากขึ้น ยิ่งต้องมีทรัพย์สิน หรือเงินเก็บเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ
2.วุฒิการศึกษา การศึกษา จะบอกถึงวุฒิภาวะ ของแต่ละคน เพราะหากการศึกษาที่ดี รายได้ ที่ดีก็จะตามมาค่ะ
3.อาชีพและรายได้ บางอาชีพไม่จำเป็นต้องเรียนจบสูงแต่หาช่องทางทางธุรกิจได้ดี นับว่าก็กลายเป็นมหาเศรษฐี ได้เช่นกัน ยิ่งฐานะดี ร่ำรวย การเรียกสินสอด หรือยินยอมให้กับฝ่ายหญิงก็เป็นเรื่องที่ไม่ใช่ปัญหาของฝ่ายชายค่ะ
4.ระดับหน้าที่การงาน การงานก็มีส่วนสำคัญอีกปัจจัยในการเรียกค่าสินสอด เช่น ตำแหน่งลูกจ้าง ข้าราชการ พนักงานทั่วไป หรือระดับผู้บริหารต่างๆ การเรียกหรือจ่ายค่าสินสอดย่อมมีความแตกต่างกันอย่างแน่นอนค่ะ
5.ภูมิลำเนา นับว่าภูมิลำเนานั้นมีส่วนและมีผลต่อการคำนวน คิดค่าสินสอดเช่นกัน เช่น ชุมชนชนบท ค่าสินสอดอาจจะไม่แพงเท่า สังคมในเมืองหรือกรุงเทพมหานคร ด้วยประเพณีและสังคมที่เป็นอยู่
การคำนวนค่าสินสอดแบบต่างๆ
–(เงินเดือนฝ่ายชาย) + (เงินเดือนฝ่ายหญิง) x (5 ถึง 10) = สินสอด
สมมติเงินเดือนเจ้าบ่าวเจ้าสาวรวมกันได้ 40,000 คูณด้วยค่ากลางอย่าง 7 จะเท่ากับค่าสินสอด 280,000 บาท
-สูตรคำนวนสินสอด สูตรการคำนวณตามมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์สำหรับบุคคลธรรมดา
มูลค่าสินสอด = (รายได้ * 2.2205)+(อายุ*8986.92)
สมมติ (รายได้ 25,000 * 2.2205 = 55,512 ) +(อายุ 30 * 8986.92 = 269,607) นำผลรวมที่ได้มา บวกกัน (55,512+269,607) จะค่าสินสอดประมาณ 325,119 บาท