พิธีแต่งงาน อิสลาม หรือเรียกว่าพิธีนิกะห์ การแต่งงานในศาสนาอิสลามถือว่าเป็นเรื่องจริงจัง เพราะการแต่งงานคือพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ที่เกิดจากความยินยอม ของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายที่จะมาอยู่ร่วมกัน
วันนี้ Love2.wedding ได้รวบรวมลำดับขั้นตอนแต่งงานอิสลามที่สำคัญมาให้ว่าที่เจ้าบ่าว เจ้าสาวได้ศึกษาข้อมูลก่อนพิธีจริงค่ะ
1. การสู่ขอ
-ในปัจจุบันผู้ไปสู่ขอ คือบิดามารดาหรือญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายชาย ซึ่งต้องไปสู่ขอกับผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิงพร้อมกับนำขนมและผลไม้ไปฝากทางด้านฝ่ายหญิงด้วย
-จากนั้นเมื่อไปถึงแล้วก็บอกว่า “มีธุระ ที่จะขอปรึกษาด้วย” แล้วสอบถามว่าผู้หญิงที่ต้องการไปสู่ขอ “มีคู่รึยัง” ถ้าฝ่ายหญิงบอกว่า”ไม่มี” ก็จะบอกว่า ต้องการสู่ขอให้กับใคร ฝ่ายหญิงจะไม่ตอบตกลงในตอนนั้นและจะไม่ตอบรายละเอียด แต่จะขอเวลาปรึกษากันระหว่างญาติๆ ประมาณ 7 วัน -ในช่วงนั้นฝ่ายหญิงอาจจะส่งคนที่นับถือไปบอกฝ่ายชายในกรณีที่ตกลง ถ้าไม่ตกลงก็จะเงียบเฉยให้เป็นที่รู้กันเอาเอง เมื่อฝ่ายหญิงตกลง ฝ่ายชายก็จะไปคุยกำหนดเรื่องวันแต่งงาน สินสอดทองหมั้น และมะฮัรฺ
2.การหมั้น
-ถึงกำหนดวันหมั้น ฝ่ายชายจะจัดขบวนเถ้าแก่ ขบวนขันหมากไปยังบ้านของฝ่ายหญิง ตามฤกษ์แห่ขันหมาก ฤกษ์แต่งงาน จะใช้เวลาช่วงเย็นประมาณ 4 -5 โมงเย็น
3.พิธีแต่งงาน
–พิธีแต่งงานโดยทั่วไปจะจัดหลังวันหมั้นแล้วไม่เกิน 2 สัปดาห์ โดยถือฤกษ์ 4-5 โมงเย็น ของวันใดวันหนึ่ง ฝ่ายเจ้าบ่าวจะยกขันหมากไปยังบ้านเจ้าสาว ขบวนขันหมากนี้จะประกอบด้วยเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าบ่าว
สรุปให้เข้าใจง่ายตามนี้ค่ะ
พิธีแต่งงานอิสลาม หรือ พิธีนิกะห์
ถ้าเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม หากต้องการแต่งงานกัน ต้องเรียนรู้หลักศาสนาต่อพระอัลเลาะหุ และยินยอมที่จะเคารพรักยอมเปลี่ยนแปลงศาสนา เปลี่ยวิถีชีวิตเดิมๆเพื่อคนที่เรารักได้ ซึ่งเงื่อนไขหลักๆของพิธีแต่งงานมุสลิม มีด้วยกัน 5 ประการ
1. หญิงหรือชายจะต้องเป็นมุสลิมทั้งคู่ ถ้าเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกจากศาสนา การเป็นสามีภรรยา จะสิ้นสุดลงทันที
2. ฝ่ายชายจะต้องหาของขวัญแต่งงาน (มะฮัรฺ) ตามที่ฝ่ายหญิงขอ เมื่อทำพิธีทางศาสนาเสร็จของขวัญนั้นจะตกเป็นของฝ่ายหญิงครึ่งนึงก่อน จนกว่าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ของขวัญแต่งงาน (มะฮัรฺ) นั้นจึงจะเป็นของฝ่ายหญิงทั้งหมด แต่ถ้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉํนท์สามีภรรยากันจริงๆ ก็จะกลับมาตกเป็นของฝ่ายหญิงแค่ครึ่งเดียว
3. ต้องมีพยานที่เป็นชายมุสลิม มีคุณธรรมอย่างน้อย 2 คน
4. ต้องมีผู้ปกครอง(วะลีย์)เพื่อขออนุญาตแต่งงาน ถ้าพ่อของฝ่ายหญิงไม่ใส่มุสลิมก็จะไม่สามารถเป็นผู้ปกครองได้ แต่จะต้องแต่งตั้งให้ใครคนหนึ่งเป็นผู้ปกครอง และเมื่อพิธีเสร็จสิ้น ผู้ปกครอง (วะลีย์) ก็จะมีหน้าที่สิ้นสุดลงด้วย
5. มีการเสนอการแต่งงาน (อีญาบ) จากทางผู้ปกครองของฝ่ายหญิง และเจ้าบ่าวต้องกล่าวรับด้วย (กอบูล)