ยะลา ถือเป็นจังหวัดที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่จังหวัดหนึ่งของประเทศ คำว่า “ยะลา” มีที่มาจากภาษาพื้นเมืองเดิมว่า “ยะลอ” แปลว่า “แห”ตามประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยสุโขทัยถึงช่วงตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์ “เมืองยะลา” เป็นส่วนหนึ่งของมณฑลปัตตานี ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้มีการปรับปรุงการปกครองส่วนภูมิภาคใหม่ เป็นการปกครองแบบเทศาภิบาล โดยออกประกาศข้อบังคับสำหรับการปกครอง 7 หัวเมือง ร.ศ. 120 ประกอบด้วย
– เมืองปัตตานี
– หนองจิก
– ยะหริ่ง
– สายบุรี
– ยะลา
– ระแงะ
– เมืองรามัน
ในแต่ละเมืองมีพระยาเมืองเป็นผู้รักษาราชการ อยู่ภายใต้การดูแลของข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราช ต่อมาในปี พ.ศ. 2476 มีการยุบมณฑลปัตตานี และได้มีการจัดระเบียบราชการบริหารส่วนภูมิภาคจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน “เมืองยะลา” จึงเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยในปัจจุบัน
“ยะลา” จังหวัดใต้สุดของด้ามขวานไทย และเป็น 1 ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่หลายคนกลัวไม่กล้าไปเที่ยว แต่รู้มั้ยว่า ที่นี่เป็นแหล่งรวมที่เที่ยวสวย เเหล่งฮันนิมูนสุดโรเเมนติก ที่เราไม่ควรพลาดโอกาสดีดีในการไปเยี่ยมชมแบบที่เรียกว่า “น่าเสียดาย” มาพบกับ 8 ที่เที่ยวยะลา ไม่ต้องกลัว เเละ ไม่ควรพลาดไปชมสถานที่ต่างๆกันเลยค่ะ
1.เมืองเบตง
อำเภอชายแดนใต้สุดของประเทศไทย อยู่ห่างจากยะลา 115 กม. เบตงเป็นเมืองใหญ่ มีความเจริญ ทัดเทียมกับจังหวัดยะลาเลยทีเดียว จัดเป็นเมืองที่มีการวางผังเมืองดีที่สุดในประเทศไทย
2.ทะเลหมอก อัยเยอร์เวง
จุดชมทิวทัศน์มีทะเลหมอกให้ชมทุกเช้า และสามารถชมได้ตลอดปี เส้นทางในการเดินทาง เป็นถนนลาดยางใกล้ถนนสาย
3.บ่อน้ำร้อนเบตง
บ่อน้ำร้อนที่มีน้ำพุเดือดขึ้นมาจากพื้นดินในหมู่บ้าน เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างหนึ่งของเบตงที่มีน้ำพุเดือดขึ้นมาจากพื้นดินในหมู่บ้านจะเราะปะไร ตำบลเนาะแมเราะ ห่างจากตัวเมืองยะลาไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 ประมาณ 135 กม. ตรงจุดบริเวณน้ำเดือดสามารถต้มไข่สุกภายใน 7 นาที และเชื่อกันว่าน้ำแร่นี้สามารถรักษาโรคผิวหนังได้
ขอบคุณภาพจาก : https://www.thai-tour.com
4.สวนดอกไม้เมืองหนาวเบตง
สวนไม้ดอกเมืองหนาว หรือเรียกว่า “สวนหมื่นบุปผา” เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณหมู่บ้านปิยะมิตร 2 เป็นโครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีดอกไม้นานาพันธุ์บานสะพรั่ง คอยเชื้อเชิญผู้มาเยือน ได้แก่ แอสเตอร์ ไฮเดรนเยีย เบญจมาศ กุหลาบ พีค๊อก เยอบีร่า ลิลลี่ แกลดิโอลัส ตุ้มหูนางฟ้า และอีกหลายสายพันธ์อันมีเสน่ห์ สมชื่อ สวนหมื่นบุปผา
5.ตู้ไปรษณีย์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ตู้ไปรษณีย์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตู้เดิมตั้งอยู่ที่บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาใจกลางเมืองเบตง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 ตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง จุดประสงค์ที่สร้างไว้ในครั้งแรก ก็เพื่อใช้เป็นที่กระจายข่าวสารบ้านเมือง ให้ชาวเมืองเบตงได้รับฟัง จากวิทยุที่ฝังอยู่ส่วนบนของตู้ และใช้เป็นตู้ไปรษณีย์มาจนทุกวันนี้ ปัจจุบันได้มีการสร้างตู้ไปรษณีย์ ขึ้นใหม่ใหญ่กว่าเดิมที่บริเวณศาลาประชาคม ถนนสุขยางค์ มีความสูงประมาณ 9 เมตร เป็นจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสถานที่ตั้ง: ต.เบตง จ.ยะลา
6.พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ
วัดพุทธาธิวาส เป็นวัดที่เงียบสงบ อยู่ในตัวเมืองเบตง การเดินทางสะดวก นอกจากพระพุทธธรรมกายมงคลแล้ว ยังมีพระพุทธรูปอื่นให้กราบไหว้อีก ลักษณะของวัดอยู่บนที่สูง ผู้ที่ไม่แข็งแรง อาจจะเดินไม่สะดวก
7.น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9
น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเบตง ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงสาย 410 ยะลา-เบตง บริเวณ กิโลเมตรที่ 33 บ้าน กม.32 ชื่อเดิม คือ น้ำตก “วังเวง” หรือ “อัยเยอร์เค็ม” เพราะเรียกตามชาวจีนที่มาทำเหมืองกับฝรั่งในยุคมลายูเป็นอานานิคมอังกฤษ ชื่อ เข่ง ชาวบ้านเรียก “ไอเข่ง” “ไอเกง” เพี๊ยนเป็น “อัยเยอร์เค็ม” ต่อมาในปีมหามงคลครบรอบ 72 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในปี 2542 จึงได้เข้ามาพัฒนาบุกเบิกเส้นทาง พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว และได้เปลี่ยนชื่อเป็น น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
8.หอนาฬิกาเมืองเบตง
หอนาฬิกาเป็นสิ่งก่อสร้างอันเก่าแก่ที่อยู่เคียงคู่กับเมืองเบตงมายาวนาน เปรียบเป็น สัญลักษณ์ที่ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของเมือง ทำการก่อสร้างด้วยหินอ่อน ในยามเย็นจะเห็นฝูงนก นางแอ่นนับหมื่นตัวมาเกาะอยู่รอบ ๆ สายไฟบริเวณหอนาฬิกาจนกลายมาเป็นสัญลักษณ์คู่หอนาฬิกา