น่าน เมืองล้านนาตะวันออก ที่งดงามด้วยเรื่องราวของวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ท้องถิ่น เป็นอีกหนึ่งเมืองสงบและจุดหมายปลายทางยอดฮิตที่เหล่านักเดินทางต่างใฝ่ฝัน ที่จะมาเที่ยวสัมผัสบรรยากาศของความเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะไปเที่ยวน่านฤดูไหนก็สวยงามเสมอ ฤดูหนาวได้ความหนาวเย็นและไออุ่นจากแสงแดดยามเช้าเคล้าสายหมอกในหน้าหนาว มาเที่ยวฤดูฝนจะได้ความเขียวขจีได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ของทิวเขาที่เรียงรายกันสลับซับซ้อนเคล้าสามหมอกอลังการแห่งหน้าฝน และทุ่งนาเขียวขจี น่านมีอะไรดี ทำไมหลายคนจึงต้องปักหมุด ไปด้วยกันจัดสถานที่ท่องเที่ยวน่านที่หากได้ไปต้องตกหลุมรักมาฝากกันค่ะ
1.ดอยภูคา อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์กว้างใหญ่ไพศาล มีพื้นที่ประมาณ 1,065,000 ไร่ เต็มไปด้วยพืชพรรณและสัตว์ป่าหายากที่สำคัญต่อระบบนิเวศ ท่องเที่ยวส่วนใหญ่รู้จักดอยภูคา จากการเป็นจุดชม ต้นชมพูภูคา ที่จะออกดอกเป็นช่อ สีชมพูอมขาว สะพรั่งอย่างสวยงาม ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ของทุกปี
2.ม่อนเคียงดาว
ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน บริการที่พักโฮมสเตย์แบบเรียบง่าย อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ล้อมด้วยขุนเขา ตกดึกมีดาวเต็มฟ้าส่องแสงพร่างพราว ตอนเช้ามีทะเลหมอกไหลผ่านยอดเขา ตัดกับแสงสีทองของดวงอาทิตย์ ให้ชมกันแบบจุใจเลย ใครอยากมานอนหนาว สามารถเข้าพักได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ ของทุกปี
3.ดอยเสมอดาว
สถานที่ท่องเที่ยวกางเต็นท์พักแรมยอดฮิต แห่งหนึ่งในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ที่นอกจากจะเป็นจุดชมดาวยามค่ำคืนแล้ว ยังเป็นทั้งจุดชมแสงอาทิตย์ยามเช้า พร้อมทะเลหมอกไหลผ่านทิวเขา และจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม
4.ดอยภูแว
ตั้งอยู่ที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เป็นยอดเขาที่มีทุ่งหญ้าปกคลุมสลับกับโขดหินปูน มีหน้าผาสูงชัน และลานหินกระจายอยู่ทั่วไป ด้วยความสูง 1,837 เมตร จากระดับน้ำทะเล ใช้ระยะเวลาในการเดินเท้าประมาณ 6 ชั่วโมง ในระยะทางกว่า 8 กม. กว่า คุณจะพบกับจุดชมวิว 360 องศา กับทะเลหมอกสุดแสนตระการตา ตัดกับทุ่งหญ้าสีเขียวบนยอดภู พร้อมกับอากาศสุดหนาวเหน็บ แค่นี้ก็คุ้มค่ากับความเหนื่อย ที่เหล่านักผจญภัยจะต้องประทับใจ
5.สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน
สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน เป็นหน่วยงานในเขตพื้นที่ดูแลของอุทยานแห่งชาติขุนสถาน อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 2 กิโลเมตร ภายในโอบล้อมไปด้วยต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย ถ้าไปช่วงเดือนมกราคม จะเห็นสีชมพูสะพรั่งทั่วทั้งสถานีและริมถนนด้านนอก พร้อม ๆ กับใบเมเปิ้ลที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงในเวลาไล่เลี่ยกัน
6.ดอยวาว อุทยานแห่งชาตินันทบุรี
เป็นจุดที่สูงสุดของ อุทยานแห่งชาตินันทบุรี และเป็นแหล่งต้นน้ำหลายสาย บรรยากาศเหมาะกับการกางเต็นท์ พักแรม กินลม ชมวิว ยิ่งถ้าไปช่วงโอกาสเหมาะในฤดูหนาว จะได้ตื่นตากับซากุระ หรือ ดอกพญาเสือโคร่ง บานชมพูสะพรั่งทั่วดอย คละเคล้าสายหมอกลอยฟุ้ง เสริมสีสันให้ ดอยวาว เป็นหนึ่งสถานที่ที่นักเดินทางต้องหาโอกาสไปสัมผัส
7.นาข้าวขั้นบันได โครงการปิดทองหลังพระ
ตั้งอยู่ใน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน เป็นต้นแบบนำร่องดำเนินโครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริในพื้นที่ 3 อำเภอ ครอบคลุม 3 ตำบล ได้แก่อำเภอสองแคว ในหมู่บ้านยอด อำเภอท่าวังผา บ้านน้ำป้าก และ ต.ขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
เริ่มต้นด้วยการลดการใช้พื้นที่ป่า แสวงหาวิธีปลูกข้าวแบบใหม่ โดยนำวิธีการทำนาขั้นบันไดบนพื้นที่เขาแทนข้าวไร่ นอกจากนี้ยังมีระบบการจัดสรรน้ำเพื่อทำนาในระบบขั้นบันไดที่เรียกว่าอ่างพลวงกระจายอยู่บนเขาหัวโล้น ประยุกต์จากโครงการแก้มลิง ซึ่งในปัจจุบันนี้ นาข้าวขั้นบันได โครงการปิดทองหลังพระ ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเชียงธรรมชาติที่สวยงาม รอทุกคนได้มาสัมผัส
8.วังศิลาแลง
อีกหนึ่งที่เที่ยวทางธรรมชาติที่ได้ฉายาว่า แกรนด์แคนยอนเมืองปัว มีความโดดเด่นอยู่ที่สายน้ำกูนไหลคดเคี้ยวผ่านซอกหินผา กัดเซาะหินรอบข้างทั้งสองด้าน จนเกิดเป็นลวดลายที่สวยงามแปลกตา เเละมีวังน้ำอยู่ประมาณเจ็ดวังด้วยกันในระยะ 400 เมตร โดยในช่วงฤดูเเล้งนั้น น้ำที่ไหลลงมาจะเป็นน้ำใส ๆ สามารถมองทะลุลงไปจนเห็นถึงข้างล่างได้เลย
9.ซุ้มลีลาวดี
ซิกเนเจอร์ของจังหวัดน่าน อย่างหนึ่งก็คือ ภาพซุ้มต้นลีลาวดี หรือ ต้นลั่นทม บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่าน ที่ขึ้นเป็นแถวเรียงรายแผ่ขยายกิ่งก้านโค้งเข้าหากัน ราวกับอุโมงค์ต้นไม้ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ใบของต้นลีลาวดีจะร่วงจนหมดต้น เหลือเพียงกิ่งก้านสาขา ซึ่งสวยงามและมีเสน่ห์ไปอีกแบบ
10.โครงการศูนย์ภูฟ้าพัฒนา
เป็นโครงการสนองพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อช่วยเหลือราษฎรในถิ่นทุรกันดาร ให้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี พร้อมประกอบอาชีพ อย่างเหมาะสมกับศักยภาพ ตลอดจนพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ศึกษาธรรมชาติ และวัฒนธรรมท้องถิ่นแห่งสำคัญของจังหวัดน่าน