พิธีส่งตัวเข้าหอแต่งงาน และพิธีปูที่นอนหรืออีกชื่อหนึ่งคือ “พิธีร่วมเรียงเคียงหมอน” นั้น ถือเป็นส่วนท้ายสุดของพิธีการแต่งไทย ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะต้องมี คือ ตัวเรือนที่คู่บ่าวสาวจะอยู่ร่วมเป็นสามีภรรยากัน หรือที่เรียกกันว่า “เรือนหอ”
การเตรียมเรือนหอ
1.บ่าวสาวต้องเตรียมห้องสำหรับเป็นเรือนหอ เพื่อใช้ในขั้นตอนสุดท้ายของพิธีแต่งงาน
2.เรือนหอที่จัดเตรียม สามารถเลือกที่โรงแรม ที่บ่าวสาวจัดงานแต่งงาน หรือ ห้องนอนที่บ้านตนเอง กรณีจัดงานแต่งงานที่บ้านค่ะ
3.จัดเรือนหอ ตกแต่งให้สวยงาม โดย เตรียมดอกกุหลาบ โรยตามที่นอน ที่บ่าวสาวจะนอน หรือจะทำเป็นรูปหัวใจสวยงามก็สื่อถึงความรัก ความหวานชื่นได้ดีค่ะ
4.ปูผ้าปูที่นอนให้เรียบตรึง สวยงาม โดยผู้ที่ปูผ้าปูให้ ต้องเป็นคู่รักที่ครองรักกันมายาวนาน รักใคร่กันเดียว ไม่มีทะเลาะเบาะแว้งกัน หรือเป็นผู้ใหญ่ที่บ่าวสาวให้ความเคารพ นับถือค่ะ
5.โดยผู้ใหญ่ที่ทำพิธีปูที่นอนนี้จะเป็นผู้จัดเรียงหมอน 2 ใบ แล้วปัดที่นอนพอเป็นพิธี
ข้าวของประกอบพิธีลงบนที่นอน ได้แก่
- หินบดยาหรือหินก้อนเส้าซึ่งใช้ก่อไฟในครัว หมายถึงความหนักแน่น,
- ไม้เท้า หมายถึงอายุยืนยาว
- ฟักเขียว หมายถึงความอยู่เย็นเป็นสุข
- แมวคราว หมายถึงการอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน
- พานใส่ถุงข้าวเปลือก งา ถั่วทองหรือถั่วเขียว ซึ่งล้วนหมายถึงความเจริญงอกงาม
- ขันใส่น้ำฝน หมายถึงความเย็น สดชื่น ชุ่มฉ่ำ และสามัคคีรักไคร่กลมเกลียว
- ไก่ขาว หมายถึงขยันหมั่นเพียร
- ขันน้ำมนต์ พร้อมที่พรมน้ำมนต์
ขั้นตอน พิธีส่งตัวเข้าหอแต่งงาน
-โดยจะเริ่มจากคู่ผู้ใหญ่ซึ่งทำพิธีปูที่นอนนั้นพาเจ้าบ่าวเข้ามาในห้องหอ เจิมหน้าผากอวยพร จากนั้นค่อยนำเจ้าสาวเข้าห้องหอตามมา แต่ปัจจุบันนิยมให้คู่บ่าวสาวเข้ามาพร้อมกัน
-โดยเจ้าสาวต้องกราบพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ฝ่ายของตัวเอง เพื่อเป็นการขอพร เมื่อเจ้าสาวเข้ามา ในห้องหอแล้ว แม่เจ้าสาวต้องเป็นผู้พามามอบให้กับเจ้าบ่าว พร้อมพูดจาฝากฝังให้ช่วยดูแล จากนั้นจะกล่าวให้โอวาทเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ เพื่อความเป็นสิริมงคล และอาจอบรมให้รู้จักหน้าที่ของสามี-ภรรยาที่ดี ที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน และให้คู่บ่าว-สาวนอนลงบนที่นอน